Back to FAQ List
Q - 10 คืออะไร ?
Q-10 เป็นยาสมัยใหม่ ประเภทอาหารเสริมที่กำลังฮิตมากที่สุดในบ้านเราขณะนี้ เพราะว่ามีการโฆษณาทางโทรทัศน์บ่อยที่สุด ในแง่ของการทำให้อายุยืน ชะลอความแก่ เสริมความสาว และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เป็นประกายวัวแวววาว
             
Q-10 หรือที่บางคนเรียกว่า Q-TEN คิว-เท็น บางคนก็เรียกว่า วิตามินคิว ซึ่งในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยอมรับในเรื่องของ 1. ป้องกันสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ 2. ป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว
การออกฤทธิ์ทำงานของ Q-10 อยู่บนพื้นฐานของอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ซึ่งค้นพบโดยนายแพทย์ซึ่งได้รับรางวัลโนเบิล ไพรซ์ ดร.คาร์ล โฟล์คเกอร์ แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัล ให้ความเชื่อถือ Q-10 มาก เขาเชื่อว่าปัญหาของระบบหลอดเลือดหัวใจล้วนเป็นผลมาจากการขาด Q-10 
            
 Q-10 เป็นโคเอนไซม์ ที่รู้จักกันมานาน แพทย์ไทยรู้จักการใช้ Q-10 ป้องกันโรคหัวใจมานานหลายปีแล้ว แพทย์ในอิสราเอล ประเทศญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศใช้ Q-10 รักษาโรคชรา โรคเรื้อรัง โรคหัวใจ ประมาณกันว่าแพทย์ได้สั่งยา Q-10 ให้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจมามากกว่า 40 ล้านคน ทั่วโลก
            
Q-10 นั้นใช้เป็นยารักษาและป้องกันโรคสมองเสื่อมก่อนวัยหรืออัลไซเมอร์ ซึ่งมักจะเกิดในคนชรา อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
            
โรคสมองเสื่อมนั้น ประกอบด้วยอาการความจำเสื่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกิดใหม่ๆ จะจำได้แต่เรื่องเก่าๆ สมัยโบราณ เมื่อเป็นเด็กๆ มีอาการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมด้วย กลายเป็นคนไม่เรียบร้อยแต่งกายลวกๆ พูดรัวหรืออาจจะพูดไม่เป็นคำ นอกจากนี้อาจมีอาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ด้วย เช่น อารมณ์ร้าย หรือบางทีก็อารมณ์อิ่มเอมเปรมปรีด์อย่างผิดปกติ บางครั้งเกิดอารมณ์หลง เช่น หลงสถานที่ หลงเวลา นั่งอยู่กับบ้านแต่กลับบอกว่าอยากกลับบ้าน ตื่นขึ้นมาหุงข้าวตอนเวลาตี 4 หลงจำไม่ได้ว่าภรรยาชื่ออะไร ผู้ป่วยอาจจะเป็นคนนอนขี้เซา นอนยาว ขี้เกียจทำงาน ถ้าเป็นมากขั้นร้ายแรง อาจมีอาการตัวสั่น ตัวกระตุก
            
สาเหตุที่ชัดเจนของโรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อมก่อนวัย ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร เพียงแต่อธิบายทางพยาธิวิทยาได้ว่า เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ในสมองนั่นเอง เซลล์สมองทำงานเสื่อมถอยลง จากการถูกทำลายจากสาเหตุอะไรบางอย่าง นักวิทยาศาสตร์หลายคน เช่น ดร.เดนแฮม อาร์แมน แห่งมหาวิทยาลัยเนบราสก้า เชื่อว่า โคเอมไซม์ Q-10 มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคชรา โรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อมได้ โดยการปกป้องไมโตคอนเดรีย ซึ่งอยู่ภายในเซลล์ของร่างกาย ให้รอดพ้นจากการโจมตีของอนุมูลอิสระ เจ้าตัวร้ายที่บั่นทอนอายุของมนุษย์ทั้งหลาย
            
จนถึงปัจจุบัน เรายังไม่สามารถอธิบายการทำงานของโคเอนไซม์ Q-10 เพียงบอกได้คร่าวๆ ว่าโคเอนไซม์ Q-10 ทำตัวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Free Radicals) คล้ายกับวิตามินซี วิตามินอีช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระเข้าโจมตีโมเลกุลไขมันในเซลล์ จึงช่วยรักษาผนังของเซลล์ให้คงสภาพสมบูรณ์ โคเอนไซม์ Q-10 ออกฤทธิ์ในอวัยวะของเซลล์ ส่วนที่เรียกว่า ไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นเหมือนโรงงานสำคัญ ที่ผลิตพลังงานสำหรับเซลล์ ทำหน้าที่สันดาป โดยใช้ออกซิเจน ด้วยขบวนการที่เรียกว่า ไอโอ-อีเนอเจติกส์
          
   โคเอนไซม์ Q-10 จึงเกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานในร่างกาย อวัยวะที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง ไม่มีวันเวลาหยุด ต้องยกนิ้วให้หัวใจ ซึ่งประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ส่วนไม่มีกระดูก ไม่มีพังผืด เซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจจึงต้องมี โคเอนไซม์ Q-10 มากเป็นพิเศษกว่าอวัยวะอื่นๆ แต่เดิมนั้นการศึกษาเบื้องต้น เรื่อง Q-10 จะมุ่งเน้นไปทางประสิทธิภาพการรักษาโรคอื่นๆ และกระตุ้นภูมิต้านทานโรค แต่ปัจจุบันนี้สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด คือการออกฤทธิ์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด Q-10 พบว่าร่างกายเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ และลดปัญหาการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ
            
ผลการศึกษาของอเมริกา โดยมหาวิทยาลัยบอสตันพบว่า โคเอนไซม์ Q-10 ช่วยยับยั้งการจับตัวเป็นก้อนแข็ง ของโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดงหัวใจ จึงป้องกันโรคเส้นเลือดโคโรนารี่อุดตันของหัวใจด้วย และยังพบด้วยว่าการออกฤทธิ์แบบนี้แรงกว่าวิตามินอีและเบต้า แคโรทีน เสียอีก นอกจากนี้ยังพบว่า วิตามิน Q ยังมีฤทธิ์ช่วยป้องกันการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจทำงานล้มเหลว เรียกว่า Cardiomyopathy ซึ่งหมายถึงการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ จนทำงานล้มเหลวเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โรคนี้เรียกว่าโรคหัวใจโตซึ่งเกิดจากการขยายใหญ่ขึ้นของหัวใจ แต่ประสิทธิภาพของการทำงานกลับลดลง สูบฉีดโลหิตได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ไม่เต็มที่ เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และไม่มีแรง
            
จากการศึกษาในคนไข้ชาวอิตาเลียนกว่า 2,500 ราย พบว่ากว่าร้อยละ 80 มีอาการของโรคหัวใจโต ดีขึ้น เมื่อกินวิตามิน Q วันละ 100 มิลลิกรัม
            
ในประเทศญี่ปุ่น มีการทำวิจัยไว้ถึง 25 ชิ้น พบว่าผู้ป่วยร้อยละ 70 มีอาการดีขึ้นจากโรคหัวใจ ปัจจุบันโคเอนไซม์ Q-10 เป็นยาตามใบสั่งที่มีขายทั่วไป บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งสังเคราะห์และผลิต Q-10 จำหน่ายทั่วโลก
           
จำเป็นต้องกิน Q-10 เสริมไหม ?
       
ตามปกติแล้วร่างกายสามารถสร้าง Q-10 ขึ้นมาได้จากอาหารทะเลที่กินเข้าไป อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน อี และธาตุซิลีเนียม ก็จะสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง Q-10 ขึ้นมาเอง แค่ว่าโคเอนไซม์ Q-10 จะถูกร่างกายใช้ไปจนหมดอย่างรวดเร็ว ก่อนวิตามินอื่นๆ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องบริโภคอาหารที่มี Q-10 มากๆ ในโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท จะเสริมอาหารโดยให้กินอาหารทะเล คือ เนื้อปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาซาร์ดีนกระป๋อง น้ำมันปลา อาหารทะเลทุกชนิด เครื่องในสัตว์ เช่น หัวใจ ตับ เซ่งจี้ จะมี Q-10 ส่วนในพืช ได้แก่ ถั่วลิสง และน้ำมันถั่วเหลืองจะมี Q-10 บ้าง
            
ดังนั้นคนไข้ที่กินปลาซาร์ดีนกระป๋องมากกว่า 2 กระป๋องต่อสัปดาห์ ก็จะได้รับโคเอนไซม์ Q-10 สูงกว่าคนทั่วไป จากกรณีการศึกษาพบว่า คนญี่ปุ่นที่รับประทานอาหารทะเลมากๆ จะอายุยืนกว่าคนทั่วไปที่ไม่ทานปลาทะเล การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจร้อยละ 75 อยู่ในภาวะขาดโคเอนไซม์ Q-10 และการที่กิน Q-10 เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยถึงร้อยละ 91 มีอาการของโรคหัวใจดีขึ้นอย่างทันทีภายใน 30 วัน
            
ขนาดที่ต้องการเท่าไร ? 
        
ปัจจุบันยังไม่รู้ปริมาณแน่นอนที่ต้องการต่อวัน เพียงแต่ทราบว่า ถ้าหากกิน Q-10 น้อย ก็จะทำให้ร่างกายแก่เร็ว และอายุสั้นเท่านั้นเอง ที่โชคร้ายสำหรับคนเราก็คือ ร่างกายของมนุษย์จะผลิต Q-10 ถึงอายุ 20 กว่าปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะผลิตน้อยลง เมื่อถึงวันกลางคนร่างกายก็จะขาด Q-10 กันทุกคน จึงไม่แปลกเลยที่โรคหัวใจจะถามหาเราในวัยกลางคนมากกว่า วงการแพทย์ในหลายประเทศจึงสั่งจ่ายยา Q-10 ให้แก่คนไข้โรคหัวใจ ซึ่งก็ได้ผลดี มีรายงานในญี่ปุ่นถึง 25 ชิ้น ที่กล่าวว่าคนไข้ร้อยละ 70 จะมีอาการดีขึ้นเมื่อกิน Q-10

ข้อมูล นิตยสารใกล้หมอ

สร้างเมื่อ : [ 11/10/2007 ]

                                    More
 
 
 
I.C.C. Fashion for export
 
กิจกรรม นักวิเคราะห์ นักลงทุน พบกลุ่มสหพัฒน์
 
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 48
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 47
 
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 46
 
โครงการมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา
 
ดร.เทียม โชควัฒนา
 
คุณนายสายพิณ โชควัฒนา
 
 
ร่วมงานกับเรา
 
ติดต่อเรา