ในสมัยนั้นดร.เทียมมีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่นโดยทางเรือ ด้วยทุนของบริษัทมิตซุยของญี่ปุ่น คุณนายก็สนับสนุน
และอยู่บ้านดูแลพ่อสามี น้องของสามี 3 คน และลูกอีก 4 คน เพียงคนเดียว
และในเวลาเดียวกันประเทศไทยมีของอุปโภคและบริโภคน้อย ของใหม่ๆต้องมาจากต่งประเทศหมด
ใครติดต่อซื้อของได้ก็สามารถ ขายได้และมีกำไร ดร.เทียมมีเงินทุนเพียง 1,000 บาท
ต้องซื้อของมาขายเงินสดบ้าง เครดิตบ้าง ดร.เทียมและคุณนายรู้ว่าแม้จะขยัน เท่าไร
ถ้ามีทุนไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถจะทำธุรกิจได้
คุณนายจึงไปขอกู้เงินจากคุณพ่อที่บ้านประตูน้ำ โดยคุณพ่อของคุณนายถามคุณนายว่า
ดร.เทียมเป็นคนน่าเชื่อถือหรือไม่ คุณนายจึงตอบว่าเชื่อถือได้แน่
และขอเอาชีวิตของตนเป็น หลักประกัน คุณพ่อจึงให้เงินมาจำนวนหนึ่ง
ทำให้ดร.เทียมมีโอกาสทางการค้าขายและขยายธุรกิจมากขึ้น เมื่อดร.เทียมอยากจะสร้างโรงงานผลิตสินค้าแทนการสั่งสินค้ามาขาย คุณนายก็เป็นธุระในการหาที่ดินแถวพระราม3 ซึ่งเวลานั้นเป็นสวนผัก
สำหรับสร้างโรงงานยาสีฟัน และรองเท้า ตลอดชีวิตของคุณนาย คุณนายได้เป็นคู่คิดคู่สร้างของดร.เทียมมาโดยตลอด
คุณนายรับฟังปัญหาของดร.เทียม ช่วยคิดช่วยแก้ คอยอบรมลูกๆไม่ให้รบกวนเวลาและทำให้ดร.เทียมต้องหนักใจ
เมื่อดร.เทียมได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางด้านการบริหาร การจัดการ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครอบครัวของเราจึงจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น
และถือว่าคุณนายสายพิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของดร.เทียม
|