เมื่อคุณนายสายพิณและท่านดร.เทียมได้มีบุตรคนโต คือคุณบุณย์เอก โชควัฒนา เมื่อ 70 ปีก่อน
ดร.เทียม ถูกสบประมาทจากพี่ชาย ว่าทำงานยังไม่เป็นก็มีลูกแล้วดร.แค้นใจมาก
จึงขอคุณพ่อให้แยกธุรกิจออกจาก ครอบครัวใหญ่ คือ " เปียวฮะ"
ซึ่งถือว่าเป็นของคุณพ่อและพี่น้อง ดร.เทียมมาตั้งร้านขายของชำ ชื่อ " เฮียบฮะ "
ที่ถนนเยาวราช ตรงข้ามตึก 7 ชั้น (ซึ่งปัจจุบันคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด "พลูชัยพาณิชย์") เมื่อปี 2481 (1940)
ดร.เทียมได้เงินจากส่วนแบ่งร้านเปียวฮะ 1,000 บาท
มาตั้งธุรกิจให้คุณพ่อ และพี่น้องของดร.เทียม เพราะดร.เทียม เห็นว่าครอบครัวรุ่นดร.เทียมเริ่มขยายตัว
"ยี่แป๊ะ" พี่ชายของดร.เทียมที่เป็นลูกของคุณย่าเมืองจีนได้แต่งงาน
และอพยพพาเจ้าสาวมาอยู่เมืองไทย คุณปู่จึงมีลูกสะใภ้ 2 คน

   เมื่อมี " ร้านเฮียบฮะ" คุณนายก็มีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน คือ คุณบุณย์เอก คุณบุญปกรณ์ คุณบุณยสิทธิ์ และคุณศิริยล ทุกคนอายุห่างกัน 1 ปี หรือ 2 ปี เท่านั้น คุณนายดูแลลูกทั้ง 4 คน
เรียกได้ว่าต้องไกวเปลตลอด 24 ชั่วโมง ดร.เทียม ไปติดต่อซื้อของมาขาย ดร.เทียมเป็นคนขยัน
และอัธยาศัยดี จึงเป็นที่ชื่นชอบของพ่อค้าฝรั่ง และญี่ปุ่น ซึ่งมักจะชวนดร.เทียมไปปรึกษา เพื่อตั้งราคาสินค้า และให้ดร.เทียมนำสินค้าไปขายให้ ท่านต้องทำงานหนักทุกวัน
ซื้อสินค้า ขายสินค้า หาเช้ากินค่ำ จนดึกดื่น ไม่มีวันหยุดไม่มีเวลาให้กับครอบครัว คุณนายให้ท่านดร.เทียมรับผิดชอบเรื่องค้าขายส่วนภาระของครอบครัวคุณนายเป็นผู้ดูแลเอง

     ในสมัยนั้นดร.เทียมมีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่นโดยทางเรือ ด้วยทุนของบริษัทมิตซุยของญี่ปุ่น คุณนายก็สนับสนุน
   และอยู่บ้านดูแลพ่อสามี น้องของสามี 3 คน และลูกอีก 4 คน   เพียงคนเดียว
    และในเวลาเดียวกันประเทศไทยมีของอุปโภคและบริโภคน้อย ของใหม่ๆต้องมาจากต่งประเทศหมด
ใครติดต่อซื้อของได้ก็สามารถ ขายได้และมีกำไร ดร.เทียมมีเงินทุนเพียง 1,000 บาท
ต้องซื้อของมาขายเงินสดบ้าง เครดิตบ้าง ดร.เทียมและคุณนายรู้ว่าแม้จะขยัน เท่าไร
ถ้ามีทุนไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถจะทำธุรกิจได้
คุณนายจึงไปขอกู้เงินจากคุณพ่อที่บ้านประตูน้ำ โดยคุณพ่อของคุณนายถามคุณนายว่า
ดร.เทียมเป็นคนน่าเชื่อถือหรือไม่ คุณนายจึงตอบว่าเชื่อถือได้แน่
และขอเอาชีวิตของตนเป็น หลักประกัน คุณพ่อจึงให้เงินมาจำนวนหนึ่ง
ทำให้ดร.เทียมมีโอกาสทางการค้าขายและขยายธุรกิจมากขึ้น

       เมื่อดร.เทียมอยากจะสร้างโรงงานผลิตสินค้าแทนการสั่งสินค้ามาขาย คุณนายก็เป็นธุระในการหาที่ดินแถวพระราม3 ซึ่งเวลานั้นเป็นสวนผัก
สำหรับสร้างโรงงานยาสีฟัน และรองเท้า ตลอดชีวิตของคุณนาย คุณนายได้เป็นคู่คิดคู่สร้างของดร.เทียมมาโดยตลอด

คุณนายรับฟังปัญหาของดร.เทียม ช่วยคิดช่วยแก้ คอยอบรมลูกๆไม่ให้รบกวนเวลาและทำให้ดร.เทียมต้องหนักใจ
เมื่อดร.เทียมได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางด้านการบริหาร การจัดการ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครอบครัวของเราจึงจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น
และถือว่าคุณนายสายพิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของดร.เทียม