รักน้องฝ้าย ต้องเทคแคร์กันหน่อย
หากมองสารพัดสิ่งทอรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เบาะโซฟา ผ้าม่าน ผ้าห่ม ฯลฯ ทุกสิ่งอย่าง ที่เป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอ เราสามารถพบเห็นฝ้ายเป็นองค์ประกอบหลักในผืนผ้าแทบทั้งสิ้น
เหตุเพราะเมื่อฝ้ายถูกทอเป็นเส้นใยเมื่อไหร่ ก็จะมีความเหนียว ทนทานสูงขึ้น ใช้เป็นแพ็ทเทิร์นในการตัดเย็บอะไรค่อนข้างง่าย
ฝ้ายมีคุณสมบัติที่ดีหลายด้านค่ะ เช่นดูดความชื้นได้ดีจึงนิยมใช้ผลิตเป็นผ้าเช็ดตัว
หรือผ้าเช็ดหน้าไงคะ ส่วนฝ้ายเนื้อบางหน่อยจนหนาปานกลางก็ใช้ตัดเป็นเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดีเพราะ
เนื้อนุ่ม โปร่งสบาย และการที่ผ้าฝ้ายมีเส้นใยเกาะกันอยู่อย่างหลวมๆจึงระบายอากาศได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อนอย่างบ้านเรามากๆ ซึ่งพอเปียกน้ำก็จะแห้งได้เร็วอีกด้วยนะ
ถ้าจะรักน้องฝ้าย ต้องใส่ใจเทคแคร์กับเรื่องเหล่านี้..
1. โดยหลักการแล้วผ้าฝ้าย 100% จัดเป็นเนื้อผ้าที่มีความแข็งแรงทนทานระดับหนึ่งเชียวนะคะ
ฉะนั้นจะซักด้วยมือ หรือถูกซักรวมในเครื่องซักผ้าหรือนำไปปั่นแห้งด้วยเครื่องอบผ้าก็ถือว่า “ฝ้ายรับได้หมด”
2. การจะซักผ้าฝ้ายด้วยเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดก็คือ
* การใช้น้ำอุ่นในการซัก
* ตั้งโปรแกรมการซักแบบปกติ
* ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมในการถนอมเส้นใยผ้าและคงสีสันของผ้าฝ้ายไว้ก่อน จะเป็นวิธีที่ฉลาดสมเป็นแม่บ้านยุคใหม่ค่ะ
* หากจะอบแห้งก็ควรใช้เวลาไม่นานมาก เพราะผ้าฝ้ายแห้งง่ายมากๆอยู่แล้ว
3. กรณีผ้าฝ้ายสีขาวเกิดอาการหมองไปแล้ว แต่อยากทำให้ขาวเหมือนใหม่ ด้วยการใช้น้ำยาซักผ้าขาวซักเข้าช่วย รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวผสมอยู่ในการซักทุกครั้ง อันนี้ก็ต้องระวังเป็นพิเศษหน่อย
ทางที่ดีควรใส่ใจกับป้ายที่แนะนำวิธีการดูแลเสื้อผ้าชุดนั้นให้ดีเสียก่อน เพราะเนื้อผ้าชุดนั้นอาจมีเส้นใยอื่นผสมอยู่ด้วย ซึ่งอาจไม่สามารถใช้น้ำอุ่นซัก หรือใช้สารฟอกขาวใดๆในการซักก็ได้ ถ้าไม่แคร์เรื่องป้ายแนะนำ ระวังผลที่ได้อาจทำให้สีและใยผ้าในเสื้อผ้าชุดนั้นเลวร้ายลงกว่าเดิมก็ได้นะคะ
4. ผ้าขนหนู หรือผ้าเช็ดตัวที่ผลิตจากใยฝ้าย 100% จะซักอย่างไรให้นุ่มน่าใช้?ประเด็นนี้ง่ายมากค่ะ แค่ลดความเข้มข้นของผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าให้น้อยลง
และจะต้องล้างฟองออกให้หมดจดที่สุด เพราะฟองตกค้างในใยผ้าคือสาเหตุที่ทำให้ผ้ามีความหยาบกระด้าง ขาดความนุ่มละมุนในใยผ้า หรือหากต้องการให้เกิดความนุ่มหอม
เป็นพิเศษก็อาจจะอาศัยน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยสลายฟองออกไปด้วยในตัวนะคะ
5. แม้ในปัจจุบันจะมีการเสริมคุณลักษณะในใยผ้าฝ้ายให้ลดดีกรีความยับง่ายและช่วยให้รีดเรียบง่ายขึ้นแล้วก็ตาม แต่น้องฝ้ายก็ยังคงสไตล์ “รีดปั๊บยับปุ๊บ” ไว้ได้
อย่างคงเส้นคงวา ซึ่งการพรมน้ำช่วยเพิ่มความชื้น แล้วรีดกดด้วยไฟค่อนข้างแรงก็ยังถือเป็นวิธีการขจัดรอยยับของผ้าฝ้ายขั้นพื้นฐานที่ใช้ได้อยู่ตลอดกาลเช่นกันแต่วิธีการแบบนี้ดูทารุณกับน้องฝ้ายไม่ใช่น้อยๆ เพราะอาจสร้างรอยเงาที่ไม่พึงประสงค์กับผ้าได้เป็นแห่งๆ ดูแล้วเสียบุคลิกภาพได้นะคะ...วิธีการฉลาดของคุณแม่บ้านสมัยใหม่ก็ต้องใช้สเปรย์รีดผ้าเรียบหรือสเปรย์อัดกลีบเข้าช่วยไงคะ นอกจากจะช่วยให้เรียบง่ายขึ้นแล้ว ยังทำให้รอยยับเกิดยากด้วยและกลีบของผ้าก็จะคงรูปได้ง่ายและนานขึ้นอีกต่างหาก
คำแนะนำเพิ่มเติม
* หากจะใช้น้ำยาซักผ้าขาวหรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีสารฟอกขาวผสมอยู่ควรใช้ปริมาณน้อยๆเข้าไว้ เพื่อป้องกันใยผ้าถูกทำลาย
* ชุดเสื้อผ้าที่เป็นผ้าฝ้ายนั้นอาจมีใยผ้าประเภทอื่นผสมอยู่ ฉะนั้นควรใส่ใจต่อคำแนะนำที่ติดมากับชุด เผื่อว่าจะมีวิธีการดูแลที่พิเศษเพิ่มเข้ามาก็ได้
ประเด็นสุดท้าย.. หากรักน้องฝ้ายจริงต้องยอมรับข้อเสียได้ด้วยสิคะ !
อย่าเพิ่งตกใจค่ะ ..จริงๆแล้วน้องฝ้ายนั้นมีความบกพร่องตามธรรมชาติอยู่อย่างหนึ่งคือ ชอบหดตัวเวลาซักไงคะ หนำซ้ำยังไม่มีเทคโนโลยีใดมาหยุดปฏิกิริยาแบบนี้ได้แบบเด็ดขาด
อีกด้วย ถ้าคุณซื้อเสื้อผ้าฝ้ายที่ผ่านขั้นตอนการหดตัวมาแล้วก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่แน่ใจ...ก็ต้องป้องกันชุดใหม่ของคุณไว้ก่อนจะดีกว่า ง่ายๆ คือแยกชุดใหม่มาซักด้วยมือ
และเมื่อจะตากให้แห้งก็ควรสะบัดสองสามรอบ เพื่อให้ใยผ้าที่เกาะแน่นกันจากการบีบและบิดผ้าขณะซักได้คลายตัวออกบ้าง ส่วนการตากก็ควรดึงผ้าให้เรียบตึงที่สุด เพื่อเวลาแห้งเส้นใยของผ้าจะได้ไม่หดตัวมากนัก ที่สำคัญคือ การปล่อยให้เค้าแห้งตามธรรมชาติ อย่าใช้เครื่องปั่นหรืออบผ้าฝ้ายให้แห้งเด็ดขาดเพราะการทำให้ผ้าฝ้ายแห้งเร็วเกินไปจะยิ่งทำให้ใยผ้าฝ้ายหดตัวง่ายยิ่งขึ้น